ซิเซโร

27/12/52


ทางด้านปรัชญาความคิดนั้นโรมันได้รับแนวความคิดทางปรัชญามาจากกรีกโดยเฉพาะแนวคิดของพวก

สโตอิด

เรื่องความมีเหตุผลความยุติธรรมตามธรรมชาติและความเท่าเทียมกันมาใช้ในกฎหมายโรมัน

กลุ่มนักปรัชญา คือกลุ่ม Scipionic cricle 

ได้เสนอแนวคิดเรื่องความเท่าเทียมกันของมนุษย์ซึ่งทำให้เกิดความยุติธรรมในรัฐ และเสนอเรื่องความเป็นหนึ่งอันเดียวกันของเชื่อชาติ

นอกจากนี้ โพลีบิอุส เสนอแนวคิดว่า ระบบการปกครองแบบผสมเป็นระบบการปกครองที่ดีที่ป้องกันมิให้เสื่อมไปตามธรรมชาติ

โดยกล่าวว่าโลกที่โรมันปกครองเป็นรัฐโลก เพราะได้ปรับอำนาจของสถานบันปกครองให้มีความสมดุล โดยที่กงสุลมีลักษณะเป็นแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์

สภาเซเนทมีลักษณะเป็นแบบอภิชนาธิปไตย สภาราษฎร์มีลักษณะเป็นแบบประชาธิปไตย ทั้ง 3 สถานบัน ต่างมีอำนาจตรวจสอบซึ่งกันและกัน อันเป็นการจัดสมดุลอำนาจทางการเมืองในระบบ Check and Balance

ซิเซโร เห็นด้วยกับความคิดว่าระบบการเมืองแบบผสมทำให้เกิด Check and Balance

ผลสำคัญของซิเซโรคือการเอาความคิดเรื่องกฎธรรมชาติมาผนวกกับลัทธิสโตอิด

โดยถือว่ากฎธรรมชาติ คือ

รัฐธรรมนูญของรัฐโลก

กฎนี้ไม่เปลี่ยนแปลงและใช้สำหรับทุกคน (ในแง่นี้ทุกคนจึงเท่าเทียมกัน) สิ่งใดที่ขัดกับกฎนี้จะถือเป็น กฎหมายมิได้

ซิเซโรมองว่าการมีคนมารวมกันเป็นประชาคมจะต้องการยอมรับกฎหมายสิทธิและประโยชน์ส่วนร่วม ซึ่งทำให้เกิด 3 ประการ คือ

1.รัฐและกฎหมายเป็นสมบัติของประชาชน เกิดจากการรวมกันแห่งอำนาจของประชาชน

2.อำนาจการเมืองที่ใช้อย่างถูกต้องจะสอดคล้องกับอำนาจของประชาชน

3.รัฐและความหมายของรัฐอยู่ใต้กฎของพระเจ้า ในลักษณะเช่นนี้เป็นการยอมรับว่าประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจ และการปกครองต้องได้รับความยินยอมจากประชาชน

เซเนกา ได้รับอิทธิพลจาก ลัทธิสโตอิก เช่นเดียวกับซิเซโร แต่ได้เน้นสังคมมากกว่ารัฐและมีความผูกพันกับศีลธรรมมากกว่ากฎหมายการเมือง นอกจากนี้ยังได้แยกประโยชน์ทางโลกออกจากประโยชน์ทางวิญญาณ ลักษณะความคิดของเซเนกาเป็นศาสนา 2 ประการ คือถือว่าบาปเป็นธรรมชาติของมนุษย์ และเน้นที่ความเข้าใจกันความสุภาพ คุณธรรม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น