ศาลปกครองตัดสินเพิกถอนคำสั่งให้ออก 3 อ. ม.ราชภัฎนครศรีธรรม ให้ชดใช้ค่าเสียหาย 2.4 แสน

2/9/53
เมื่อวันที่ 2 ก.ย.2553

อ.คมกฤช วางหา, 
อ.ปริญดา ตันเสวี,และ
อ.วีลายา มะห์มูดีย์


อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช

ได้ร่วมแถลงข่าวกับสื่อมวลชนว่า

วันที่ 25 สิงหาคม 2553 ศาลปกครองนครศรีธรรมราชนั่งบัลลังค์ตัดสินคดี 3 ในทีม 14

อาจารย์ ที่ถูกอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราชไล่ออก ระบุชัด การลงโทษผู้ฝ่าฝืนหรือกระทำผิดต้องมีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงหรือสอบสวนทางวินัยตามที่กฎหมายกำหนดให้ครบถ้วนพร้อมให้ชดใช้ค่าเสียหายภายใน 90 วัน รวมกว่า 2.4 แสนบาท

3 อาจารย์ ม.ราชภัฏนครศรีธรรมราช ร่วมกันแถลงต่อไปอีกว่า

ตามที่ทางมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช โดย 

ผศ.ฉัตรชัย ศุกระกาญจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช

ได้มีคำสั่งให้ 14 อาจารย์จากคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ถูกไล่ออกอย่างกะทันหันเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2551 ทั้งที่อาจารย์เหล่านั้นไม่ได้รับการตรวจสอบมูลความผิดตามกระบวนการยุติธรรมแต่อย่างใด
จึงได้ขอความเป็นธรรมโดยทยอยส่งคำฟ้องไปที่ศาลปกครองนครศรีธรรมราช

ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2551- มกราคม 2552 นั้น
ต่อมาในวันที่ 25 สิงหาคม 2553 ที่ผ่านมาศาลปกครองนครศรีธรรมราชได้มีคำพิพากษา 3

คดีแรก ประกอบด้วย  

อ.คมกฤช วางหา 
อ.ปริญดา ตันติเสวี และ 
อ.วีลายา มะห์มูดีย์
คำพิพากษาอ้างถึงเอกสารสัญญาจ้างและประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ระบุ

"โดยที่ระเบียบกฎหมายได้กำหนดขั้นตอนหรือวิธีการในการลงโทษผู้ฝ่าฝืนหรือกระทำผิดลักษณะดังกล่าวไว้แล้ว เช่น การลงโทษว่ากล่าวตักเตือน การทำทัณฑ์บน ซึ่งต้องมีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงหรือสอบสวนทางวินัยตามที่กฎหมายกำหนดให้ครบถ้วนเพื่อทราบรายละเอียดแห่งพฤติการณ์แห่งการกระทำและการให้สิทธิผู้ถูกกล่าวหามีโอกาสโต้แย้งแสดงพยานหลักฐานหักล้าง เมื่อไม่ปรากฏข้อเท็จจริงในสำนวนคดีว่ามีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อดำเนินการดังกล่าวแต่อย่างใด 

ดังนั้นข้อกล่าวอ้างของผู้ถูกฟ้องคดทั้งสองจึงปราศจากพยานหลักฐาน ไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะรับฟังได้ว่าผู้ฟ้องคดีกระทำผิดสัญญาจ้างอันเป็นเหตุที่ทำให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองมีสิทธิเลิกจ้างโดยชอบธรรมตามกฎหมายได้"

สะท้อนว่าอาจารย์สัญญาจ้างเหล่านี้ไม่มีความผิดและถูกให้ออกจากราชการโดยไม่ชอบธรรม พร้อมให้มหาวิทยาลัยจ่ายค่าเสียหายรวม จำนวน 244,354 บาท 

ประกอบด้วย

-ค่าตอบแทนการออกจากราชการโดยไม่มีความผิด 
-ค่าเสียหายที่พึงได้จากการขาดรายได้ตามสัญญา 

ทั้งนี้ยังไม่รวมดอกเบี้ยนับตั้งแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระแล้วเสร็จตามคำขอของผู้ฟ้องคดี ร้อยละ 7.5 ต่อปี
และให้คืนค่าธรรมเนียมศาลให้ผู้ฟ้องคดีบางส่วนตามส่วนของการชนะคดี  

ทั้งนี้ดำเนินการให้เป็นตามคำพิพากษาของศาลภายใน 90 วันนับแต่วันที่คดีถึงที่สุด

หนึ่งในอาจารย์ผู้ชนะคดีท่านหนึ่งกล่าวด้วยความดีใจหลังฟังพิพากษาว่า 

เหตุมาจากระบบงานภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราชที่คร่ำครึ 

เบี่ยงเบนและขาดจิตวิญญาณมหาวิทยาลัย
อ้างแต่วัฒนธรรมองค์กรเพื่อรักษาผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง

จนเลยเถิดขาดจริยธรรมและคุณธรรมแทนที่จะพัฒนานำพาองค์กรให้มีอุดมการณ์รับใช้ท้องถิ่น
กลับเถลิงแก่อำนาจรังแกผู้อ่อนแอกว่า

ทั้งที่กฎหมายรัฐธรรมนูญเน้นว่าศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ย่อมได้รับการคุ้มครอง

ความเป็นธรรมครั้งนี้ถือเป็นชัยชนะของคนเล็กคนน้อยที่กล้าลุกขึ้นมาต่อสู้และแสวงหาความยุติธรรม

พร้อมวอนเพื่อนอาจารย์สัญญาจ้างศึกษากฎหมายเพื่อสร้างปกป้องศักดิ์ศรีและธำรงมาตรฐานทางจริยธรรม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น